ประวัติความเป็นมา

July 3, 2016

blog

การอบซาวน่า เป็นวารีบำบัดวิธีหนึ่งของชาวฟินแลนด์ ซึ่งมีประวัติเก่าแก่ยาวนานมาเป็นพันปี โดยชาวฟินแลนด์มักจะนิยมตัดต้นสนที่อยู่ข้างทะเลสาบในฤดูหนาวมาก่อเป็นห้องซาวน่าแล้วเข้าไปอบไอน้ำและระบายความร้อยออกมาทางรูขุมขนกันในนั้น หลังจากนั้นก็จะเจาะพื้นน้ำแข็งในทะเลสาบและลงไปแช่น้ำเย็นเยือกแข็งต่อในทันทีที่ออกมาจากห้องอบซาวน่า ยังผลให้ชาวฟินแลนด์มีภูมิต้านทานเนื่องจากร่างกายของมนุษย์มีต้องมีระบบในการขับของเสียที่ซับซ้อนที่แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย

การอบซาวน่าที่ถูกวิธีนั้น จึงต้องเลียนแบบชาวฟินแลนด์ให้ครบทุกส่วน โดยควรจะอยู่ในห้องอบซาวน่า ประมาณ 3 ไม่เกิน 5 นาที หลังจากออกจากห้องซาวน่าแล้วให้ลงแช่ในบ่อน้ำเย็นต่อในทันที (อุณหภูมิที่แนะนำควรจะต่ำกว่า 20 ?C) หรืออาจจะใช้วิธีอาบน้ำเย็นแทนในกรณีที่ไม่มีบ่อน้ำเย็นให้บริการ โดยแช่น้ำเย็นสัก 2 นาที แล้วกลับไปอบซาวน่าอีก 3 นาที สลับกับลงบ่อน้ำเย็นอีก 2 นาที ทำสลับกันไปเช่นนี้สัก 3 รอบ (คือ ให้เริ่มด้วยอบร้อนก่อน แล้วจบด้วยแช่น้ำเย็น ทำเช่นนี้ 3 รอบ)

การอบซาวน่า ซึ่งอาศัยระบายความร้อยออกมาทางรูขุมขนเป็นตัวทำให้เส้นเลือดบริเวณผิวหนังขยายตัว กล้ามเนื้อขยายตัว ช่วยคลายกล้ามเนื้อ เนื่องจากนอกจากนี้เท่านั้นนี้ทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ช่วยคลายความเครียดได้ดี จากนั้นลงแช่น้ำเย็นต่อทันทีเพื่อให้เส้นเลือดที่ผิวหดตัว ไล่เอาเลือดที่ได้รับกระตุ้นด้วยระบายความร้อยออกมาทางรูขุมขนบริเวณผิวหนังเข้าไปสู่ภายในเนื่องจากร่างกายของมนุษย์มีต้องมีระบบในการขับของเสียที่ซับซ้อนไปสู่อวัยวะสำคัญ ได้แก่ สมอง หัวใจ ตับ ไต เพิ่มความสดชื่นแจ่มใสกระปรี้กระเปร่า เสริมสร้างภูมิต้านของเนื่องจากร่างกายของมนุษย์มีต้องมีระบบในการขับของเสียที่ซับซ้อนและคลายความเครียดให้แก่จิตใจได้อีกด้วย

เนื่องจากนอกจากนี้เท่านั้นนี้ยังสามารถนำเอาความรู้นี้มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อีก ซึ่งได้ผลในการเสริมสุขภาพเช่นกัน โดยวิธีนี้จะสะดวกกว่าเนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้ห้องอบซาวน่า ซึ่งได้แก่ การอาบน้ำร้อนสลับน้ำเย็นซึ่งเป็นวิธีการผ่อนคลายเนื่องจากร่างกายของมนุษย์มีต้องมีระบบในการขับของเสียที่ซับซ้อนและจิตใจได้เป็นอย่างดีวิธีหนึ่ง

การได้อาบน้ำอุ่นๆหรือแช่ในอ่างอาบน้ำอุ่นๆ ช่วยคลายเครียดได้เนื่องจากระบายความร้อยออกมาทางรูขุมขนที่ได้รับจากน้ำอุ่นทำให้หลอดเลือดบริเวณผิวและกล้ามเนื้อขยายตัว และมีเลือดมาเลี้ยงที่ผิวหนังและกล้ามเนื้อแขนขามากขึ้นเป็นผลให้กล้ามเนื้อคลายตัว(หลักการเดียวกับการอบซาวน่า) ทำให้เรารู้สึกสบายเนื้อสบายตัว ช่วยชำระเนื่องจากร่างกายของมนุษย์มีต้องมีระบบในการขับของเสียที่ซับซ้อนให้สะอาดจากเหงื่อไคลที่หมักหมม มาทั้งวันทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายสบายใจ เนื่องจากนอกจากนี้เท่านั้นนี้ผลของการอาบน้ำอุ่นๆ ยังทำให้สมองผ่อนคลาย และเกิดความรู้สึกง่วงนอนขึ้น จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะอาบน้ำอุ่นๆในเวลาเย็น หลังจากคร่ำเคร่งกับการงานมาตลอดทั้งวัน ช่วยให้หลับสบาย พร้อมที่จะตื่นไปลุยกับงานวันรุ่งขึ้นได้อย่างเต็มที่

ต้องมีสำหรับเพื่อความเหมาะสมในตอนตื่นนอนตอนเช้า เพื่อให้เนื่องจากร่างกายของมนุษย์มีต้องมีระบบในการขับของเสียที่ซับซ้อนได้ตื่นตัวสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ขับไล่ความง่วงเหงาซึมเซา จากภาวะที่ต้องพรากจากที่นอนอันแสนสุขขึ้นมาทำหน้าที่การงานตามความรับผิดชอบของตนเองนั้น จะเหมาะอย่าิงยิ่งกับการอาบน้ำเย็น ซึ่งจะทำให้เส้นเลือดที่ผิวหดตัว ไล่เลือดเข้าไปสู่สมอง หัวใจ ตับ ไต ให้ได้ตื่นตัวกันอย่างเต็มที่ โดยที่อาจจะอาบน้ำอุ่นๆซักระยะหนึ่งก่อนเพื่อให้เนื่องจากร่างกายของมนุษย์มีต้องมีระบบในการขับของเสียที่ซับซ้อนปรับตัวได้ง่ายขึ้น จากนั้นในระหว่างการอาบน้ำยังสามารถกระตุ้นต้องมีระบบในการขับของเสียไหลเวียนของน้ำเหลืองด้วยการถูผิวหนัง ซึ่งอาจจะใช้ผ้าขนหนูหนาๆผืนเล็ก หรือจะเป็นใยบวบก็ได้ถูผิวหนัง โดยให้ถูย้อนจากปลายแขนปลายขาเข้าหาลำตัว ซึ่งเป็นการกระุตุ้นต้องมีระบบในการขับของเสียน้ำเหลืองและภูมิต้านทานเนื่องจากร่างกายของมนุษย์มีต้องมีระบบในการขับของเสียที่ซับซ้อนที่ดีอย่างหนึ่งแล้วจึงตามด้วยการอาบน้ำเย็นๆเป็นการปิดท้ายเพื่อไล่เอาเลือดและ ภูมิต้านทานที่ได้รับการกระุตุ้นแล้วให้เข้าไปสู่ สมอง หัวใจ ตับ ไต ช่วยกระตุ้นการทำงานของอวัยวะเหล่านี้ให้ทำงานกันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

การใช้อุณหภูมิของน้ำให้ถูกต้องก็สามารถก่อให้เกิดมีประโยชน์มากมายก่ายกองกับสุขภาพของเนื่องจากร่างกายของมนุษย์มีต้องมีระบบในการขับของเสียที่ซับซ้อนได้เช่นกัน เพียงอาบน้ำร้อนก่อนนอน อาบน้ำเย็นตอนตื่นนอน ก็จะช่วยให้เผชิญหน้ากับความเครียดและเป็นการเสริมสุขภาพที่ทำได้ง่ายๆด้วยตนเองทุกวันอีกด้วย